พัฒนาการทางการพูดของเด็กที่มีประสาทหูพิการ
ในเด็กที่มีประสาทหูพิการ
พัฒนาการทางการพูดจะไม่เป็นไปตามลำดับขั้นพัฒนาการปกติ เด็กอาจจะมีระยะส่งเสียง
อือ อา แต่จะไม่สามารถส่งเสียงเลียนคำพูดของผู้อื่นได้ เมื่ออายุ 1 ปี ก็ยังไม่สามารถพูดคำที่มีความหมายได้
เด็กพวกนี้จะร้องเสียงดังเพราะไม่สามารถปรับความดังค่อยของเสียงตนเองได้
ถ้าหูตึงมากก็อาจพูดเป็นคำได้ช้า คือ อายุเกิน 2 ปี
แล้วจึงเริ่มพูด หรือถ้าหูหนวกก็ไม่สามารถพูดเป็นคำได้เลย
ในกรณีที่ความผิดปกติของหูเกิดขึ้นภายหลัง
เมื่อเด็กผ่านพ้นระยะหัดพูดมาแล้ว เด็กก็อาจจะพูดได้ในลักษณะที่แตกต่างกัน
เด็กที่เพิ่งพูดได้เป็นคำอาจพูดได้เป็นคำอยู่อย่างนั้นไม่สามารถพูดเป็นประโยคหรือพูดได้เป็นประโยคง่ายๆ
แต่ถ้าความผิดปกตินั้นเกิดขึ้นเมื่อเด็กผ่านพ้นวัยที่กำลังมีพัฒนาการทางการพูดและภาษาไปแล้ว
เด็กสามารถพูดมากได้เหมือนผู้ใหญ่
ความผิดปกติทางหูก็จะไม่เป็นสาเหตุให้เด็กพูดช้ากว่าวัย
แต่จะมีผลในแง่ความเข้าใจคำพูดของผู้อื่นไม่ดี เสียงพูดอาจจะผิดเพี้ยนไปจากเดิม
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหูตึงมากหรือน้อย และอายุที่มีความผิดปกติหูเกิดขึ้น
พูดช้า
เป็นภาวะที่เด็ก อายุ 2 ปี แล้ว ยังพูดคำที่มีความหมายไม่ได้เลย สาเหตุ
การได้ยินผิดปกติ เช่น หูตึง หูหนวก
1. มองพิการ มีความผิดปกติของสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการพูด อาจเกิดจากภาวะที่สมองขาดเลือดมาเลี้ยงตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ระหว่างคลอดหรือหลังคลอด
2.ปัญญาอ่อน ระดับสติปัญญามีความสำคัญกับการพูดเป็นอย่างมาก ถ้าระดับสติปัญญาต่ำ การพูดก็จะพัฒนาช้า หรือต่ำมากก็พูดได้
3. ปัญหาทางอารมณ์ พบในเด็กที่ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว เช่น เด็กที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กที่ปล่อยให้ดูโทรทัศน์นานเกินไป เด็กที่พ่อแม่เป็นใบ้ หรือเด็กที่บ้านพูดกันหลายภาษา
4. เด็กออทิสติก เป็นเด็กที่มีปัญหาทางด้านปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัว ไม่สนใจ ไม่สบตากับผู้อื่นเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัว ไม่สนใจ ไม่สบตากับผู้อื่น มีปัญหาด้านภาษา เช่น ไม่พูดเลย หรือพูดภาษาที่ผู้อื่นไม่เข้าใจ และมีปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น ชอบเล่น หรือจ้องมองสิ่งที่หมุน หรืออาละวาดกรีดร้องไม่มีเหตุผล
เป็นภาวะที่เด็ก อายุ 2 ปี แล้ว ยังพูดคำที่มีความหมายไม่ได้เลย สาเหตุ
การได้ยินผิดปกติ เช่น หูตึง หูหนวก
1. มองพิการ มีความผิดปกติของสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการพูด อาจเกิดจากภาวะที่สมองขาดเลือดมาเลี้ยงตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ระหว่างคลอดหรือหลังคลอด
2.ปัญญาอ่อน ระดับสติปัญญามีความสำคัญกับการพูดเป็นอย่างมาก ถ้าระดับสติปัญญาต่ำ การพูดก็จะพัฒนาช้า หรือต่ำมากก็พูดได้
3. ปัญหาทางอารมณ์ พบในเด็กที่ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว เช่น เด็กที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กที่ปล่อยให้ดูโทรทัศน์นานเกินไป เด็กที่พ่อแม่เป็นใบ้ หรือเด็กที่บ้านพูดกันหลายภาษา
4. เด็กออทิสติก เป็นเด็กที่มีปัญหาทางด้านปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัว ไม่สนใจ ไม่สบตากับผู้อื่นเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัว ไม่สนใจ ไม่สบตากับผู้อื่น มีปัญหาด้านภาษา เช่น ไม่พูดเลย หรือพูดภาษาที่ผู้อื่นไม่เข้าใจ และมีปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น ชอบเล่น หรือจ้องมองสิ่งที่หมุน หรืออาละวาดกรีดร้องไม่มีเหตุผล
การฝึกพูด
การฝึกพูดในผู้ป่วยที่พูดช้ากว่าวัยเหล่านี้ ดำเนินร่วมไปกับการรักษาสาเหตุที่ทำให้เด็กพูดช้า เช่น
1. เด็กที่พูดช้ากว่าวัยเนื่องจากการได้ยินผิดปกติก็ต้องใส่เครื่องช่วยฟังเพื่อให้เด็กได้ยินเสียงดีขึ้น แล้วจึงสอนพูด
2. เด็กที่มีความผิดปกติของระบบประสาทก็ต้องได้รับการรักษาทางระบบประสาทร่วมด้วย
เด็กที่ระดับสติปัญญาด้อยกว่าปกตินั้น ถ้าระดับสติปัญญาต่ำมาก การพูดก็ไม่สามารถพัฒนาได้เลย
3. เด็กที่มีปัญหาด้านอารมณ์ บางรายต้องการรักษาทางจิตเวชกุมารร่วมด้วย
มีเด็กพูดช้าจำนวนไม่น้อยที่มีสาเหตุหลายอย่างร่วมกัน เช่น สมองพิการ หูตึง ปัญญาอ่อน ฯลฯ พวกนี้การเริ่มฝึกพูดทำได้ค่อนข้างลำบาก และได้ผลน้อย
การฝึกพูดในผู้ป่วยที่พูดช้ากว่าวัยเหล่านี้ ดำเนินร่วมไปกับการรักษาสาเหตุที่ทำให้เด็กพูดช้า เช่น
1. เด็กที่พูดช้ากว่าวัยเนื่องจากการได้ยินผิดปกติก็ต้องใส่เครื่องช่วยฟังเพื่อให้เด็กได้ยินเสียงดีขึ้น แล้วจึงสอนพูด
2. เด็กที่มีความผิดปกติของระบบประสาทก็ต้องได้รับการรักษาทางระบบประสาทร่วมด้วย
เด็กที่ระดับสติปัญญาด้อยกว่าปกตินั้น ถ้าระดับสติปัญญาต่ำมาก การพูดก็ไม่สามารถพัฒนาได้เลย
3. เด็กที่มีปัญหาด้านอารมณ์ บางรายต้องการรักษาทางจิตเวชกุมารร่วมด้วย
มีเด็กพูดช้าจำนวนไม่น้อยที่มีสาเหตุหลายอย่างร่วมกัน เช่น สมองพิการ หูตึง ปัญญาอ่อน ฯลฯ พวกนี้การเริ่มฝึกพูดทำได้ค่อนข้างลำบาก และได้ผลน้อย
วิธีการแก้ไขทางด้านการพูดเน้นในเรื่องของการส่งเสริมพัฒนาการทางการพูดให้เร็วที่สุด
โดยใช้หลักการเรียนรู้และพัฒนาการพูดของเด็กปกติ
ฝึกเด็กให้รู้ภาษาตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้น
ถ้าเด็กได้รับการตรวจวินิจฉัยได้เร็วมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เริ่มสอนการสร้างเสริมพัฒนาการทางภาษาและการพูดได้เร็วขึ้นพ่อแม่ผู้ใกล้ชิดกับเด็กมีความสำคัญมากในการสอนพูดเด็กเหล่านี้
เด็กควรได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีคนสื่อภาษาได้ เห็นความสำคัญของการพูด
และได้รับการกระตุ้นให้พูด พ่อแม่ต้องร่วมมือกับนักแก้ไขการพูด ในการดำเนินการสอนภาษากับเด็กเป็นขั้นตอน
เมื่ออยู่ในบ้านสิ่งที่พ่อแม่ต้องทำตลอดเวลาคือ พูดประกอบการทำกิจกรรมทุกอย่าง
เป็นการเร้าให้เด็กสนใจต่อการพูดได้เรียนรู้ความหมายของคำพูด
และได้ยินคำพูดของผู้อื่น เพื่อจะได้เลียนแบบคำพูดนั้นๆ ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น