วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

พัฒนาการทางการพูดของเด็กที่มีประสาทหูพิการ


พัฒนาการทางการพูดของเด็กที่มีประสาทหูพิการ
ในเด็กที่มีประสาทหูพิการ พัฒนาการทางการพูดจะไม่เป็นไปตามลำดับขั้นพัฒนาการปกติ เด็กอาจจะมีระยะส่งเสียง อือ อา แต่จะไม่สามารถส่งเสียงเลียนคำพูดของผู้อื่นได้ เมื่ออายุ 1 ปี ก็ยังไม่สามารถพูดคำที่มีความหมายได้ เด็กพวกนี้จะร้องเสียงดังเพราะไม่สามารถปรับความดังค่อยของเสียงตนเองได้ ถ้าหูตึงมากก็อาจพูดเป็นคำได้ช้า คือ อายุเกิน 2 ปี แล้วจึงเริ่มพูด หรือถ้าหูหนวกก็ไม่สามารถพูดเป็นคำได้เลย

ในกรณีที่ความผิดปกติของหูเกิดขึ้นภายหลัง เมื่อเด็กผ่านพ้นระยะหัดพูดมาแล้ว เด็กก็อาจจะพูดได้ในลักษณะที่แตกต่างกัน เด็กที่เพิ่งพูดได้เป็นคำอาจพูดได้เป็นคำอยู่อย่างนั้นไม่สามารถพูดเป็นประโยคหรือพูดได้เป็นประโยคง่ายๆ แต่ถ้าความผิดปกตินั้นเกิดขึ้นเมื่อเด็กผ่านพ้นวัยที่กำลังมีพัฒนาการทางการพูดและภาษาไปแล้ว เด็กสามารถพูดมากได้เหมือนผู้ใหญ่ ความผิดปกติทางหูก็จะไม่เป็นสาเหตุให้เด็กพูดช้ากว่าวัย แต่จะมีผลในแง่ความเข้าใจคำพูดของผู้อื่นไม่ดี เสียงพูดอาจจะผิดเพี้ยนไปจากเดิม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหูตึงมากหรือน้อย และอายุที่มีความผิดปกติหูเกิดขึ้น
พูดช้า 
เป็นภาวะที่เด็ก อายุ 2 ปี แล้ว ยังพูดคำที่มีความหมายไม่ได้เลย  สาเหตุ
       การได้ยินผิดปกติ เช่น หูตึง หูหนวก
      1.  มองพิการ มีความผิดปกติของสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการพูด อาจเกิดจากภาวะที่สมองขาดเลือดมาเลี้ยงตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ระหว่างคลอดหรือหลังคลอด
      2.ปัญญาอ่อน ระดับสติปัญญามีความสำคัญกับการพูดเป็นอย่างมาก ถ้าระดับสติปัญญาต่ำ การพูดก็จะพัฒนาช้า หรือต่ำมากก็พูดได้
     3. ปัญหาทางอารมณ์ พบในเด็กที่ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว เช่น เด็กที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กที่ปล่อยให้ดูโทรทัศน์นานเกินไป เด็กที่พ่อแม่เป็นใบ้ หรือเด็กที่บ้านพูดกันหลายภาษา
     4. เด็กออทิสติก เป็นเด็กที่มีปัญหาทางด้านปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัว ไม่สนใจ ไม่สบตากับผู้อื่นเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัว ไม่สนใจ ไม่สบตากับผู้อื่น มีปัญหาด้านภาษา เช่น ไม่พูดเลย หรือพูดภาษาที่ผู้อื่นไม่เข้าใจ และมีปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น ชอบเล่น หรือจ้องมองสิ่งที่หมุน หรืออาละวาดกรีดร้องไม่มีเหตุผล
การฝึกพูด
การฝึกพูดในผู้ป่วยที่พูดช้ากว่าวัยเหล่านี้ ดำเนินร่วมไปกับการรักษาสาเหตุที่ทำให้เด็กพูดช้า เช่น
     1.  เด็กที่พูดช้ากว่าวัยเนื่องจากการได้ยินผิดปกติก็ต้องใส่เครื่องช่วยฟังเพื่อให้เด็กได้ยินเสียงดีขึ้น แล้วจึงสอนพูด
     2.   เด็กที่มีความผิดปกติของระบบประสาทก็ต้องได้รับการรักษาทางระบบประสาทร่วมด้วย
       เด็กที่ระดับสติปัญญาด้อยกว่าปกตินั้น ถ้าระดับสติปัญญาต่ำมาก การพูดก็ไม่สามารถพัฒนาได้เลย
     3.  เด็กที่มีปัญหาด้านอารมณ์ บางรายต้องการรักษาทางจิตเวชกุมารร่วมด้วย
มีเด็กพูดช้าจำนวนไม่น้อยที่มีสาเหตุหลายอย่างร่วมกัน เช่น สมองพิการ หูตึง ปัญญาอ่อน ฯลฯ พวกนี้การเริ่มฝึกพูดทำได้ค่อนข้างลำบาก และได้ผลน้อย
วิธีการแก้ไขทางด้านการพูดเน้นในเรื่องของการส่งเสริมพัฒนาการทางการพูดให้เร็วที่สุด โดยใช้หลักการเรียนรู้และพัฒนาการพูดของเด็กปกติ ฝึกเด็กให้รู้ภาษาตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้น ถ้าเด็กได้รับการตรวจวินิจฉัยได้เร็วมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เริ่มสอนการสร้างเสริมพัฒนาการทางภาษาและการพูดได้เร็วขึ้นพ่อแม่ผู้ใกล้ชิดกับเด็กมีความสำคัญมากในการสอนพูดเด็กเหล่านี้ เด็กควรได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีคนสื่อภาษาได้ เห็นความสำคัญของการพูด และได้รับการกระตุ้นให้พูด พ่อแม่ต้องร่วมมือกับนักแก้ไขการพูด ในการดำเนินการสอนภาษากับเด็กเป็นขั้นตอน เมื่ออยู่ในบ้านสิ่งที่พ่อแม่ต้องทำตลอดเวลาคือ พูดประกอบการทำกิจกรรมทุกอย่าง เป็นการเร้าให้เด็กสนใจต่อการพูดได้เรียนรู้ความหมายของคำพูด และได้ยินคำพูดของผู้อื่น เพื่อจะได้เลียนแบบคำพูดนั้นๆ ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น